บริษัทแอลแอลไอที สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า นำยางที่อยู่ในสต๊อก และบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ มาทำลายเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพสินค้าที่จะออกสู่ตลาด เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า 40,000 เส้น ประมาณ 60 ล้านบาท
วันที่ 10 มี.ค. 58 บริษัทแอลแอลไอที ประเทศไทย จำกัด เชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวแทนจำหน่ายยางของทางบริษัท ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำลายยางรถยนต์อยู่ในสต๊อก และบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมี่อวันที 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนำมาทำลายเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพสินค้าที่จะออกสู่ตลาด และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้าจำนวน 40,000 เส้นประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อป้องกันสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพออกสู่ตลาด
นายหลี่ จื้อ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทแอลแอลไอที ประเทศไทยจำกัด (ประจำสำนักงานใหญ่ประเทศไทย) กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทแอลแอลไอที เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และในวันที่ 2 ก.พ.การนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) ได้ประกาศให้หยุดการผลิตเพื่อปรับปรุง แก้ไข และซ่อมแซมความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ หลังจากการปรับปรุง แก้ไข และซ่อมแซมความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์ บริษัทได้รับการอนุมัติให้เริ่มการผลิตได้อีกครั้งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558
โดยทางบริษัทตระหนักดีว่า เหตุเพลิงไหม้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชนใกล้เคียง จึงได้ประสานกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการตรวจสอบสภาพอากาศ และจัดทีมพร้อมกับหน่วยงานราชการลงไปดูแลคนในชุมชนรอบข้าง เพื่อบรรเทาและป้องกันความเดือดร้อนทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และอาจเกิดขึ้นในอนาคต จากการลงพื้นที่สี่ครั้งพบว่าไม่มีชุมชนใดได้รับผลกระทบร้ายแรงจากเหตุเพลิงไหม้
นายหลี่ กล่าวอีกว่า นอกจากสภาพแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชนรอบข้างแล้ว เรายังคำนึงถึงคุณภาพสินค้าที่จะออกสู่ตลาด โดยทางบริษัทฯ ได้ตรวจสอบคุณภาพยางที่เก็บอยู่บริเวณใกล้เคียงแต่ไม่ได้ถูกเพลิงไหม้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ยางที่สภาพภายนอกยังคงสภาพดีแต่คุณภาพของยางนั้นลดลง เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อลูกค้า เราจึงตัดสินใจทำลายยางรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบด้านคุณภาพจากเหตุเพลิงไหม้จำนวน 40,000 เส้น คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อป้องกันสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพออกสู่ตลาด และเพื่อแสดงให้เห็นว่า บริษัทใส่ใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
สำหรับขั้นตอนการทำลายยางด้วยวิธีการตัดตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และเก็บยางที่ตัดเสร็จแล้วไว้เพื่อรอการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติการขนย้ายไปยังโรงปูนซีเมนต์ ที่สระบุรี เพื่อนำเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่วนหนึ่งนำไปสร้างสนามเด็กเล่นให้แก่โรงเรียนบริเวณใกล้เคียง และบริจาคให้หน่วยงานราชการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป โดยจะให้เวลาในการดำเนินการประมาณ 2 สัปดาห์
นายหลี่ กล่าวอีกว่า สำหรับความเสียหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางบริษัทเสียยางเส้นไปทั้งหมด 9700,00 เส้น มูลค่าความเสียหาย รวมทั้งโกดังเก็บยางสต๊อก จำนวน 6 แห่ง ประมาณ 47 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันกำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างโกดังเก็บสต๊อกยาง แทนที่โกดังที่ถูกไฟไหม้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่กระทบต่อกระบวนการผลิต จึงไม่มีปัญหาสำหรับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งไว้ ซึ่งอาจจะส่งล่าช้าไปบ้าง แต่ทุกคนเข้าใจ และพร้อมที่จะรอสินค้าจากทางบริษัท และในปัจจุบันทางบริษัทได้ทำการเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 12,000 เส้นต่อวัน เป็น 12,000-14,000 เส้นต่อวัน
สำหรับบริษัท LLIT (THAILAND) จำกัด หรือ หลิงหลง ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด เลขที่ 911/9 หมู่ 5 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2554 โดยมีบริษัท ชางดง หลิงหลงยางรถยนต์ จำกัด บริษัท Hong Kong Tian Cheng Investment & Trade จำกัด และบริษัท กวางซี หลิงหลง ยางรถยนต์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 892.4 ล้านบาท บริษัท ชางดง หลิงหลงยางรถยนต์ จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับยางรถยนต์ขนาดใหญ่ มียอดการส่งออกยางเป็นอันดับ 1 ของจีน การลงทุนของบริษัท LLIT (THAILAND) จำกัด หรือหลิงหลง ในประเทศไทยครั้งนี้ มีพื้นที่ทั้งหมด 333.53 เงินลงทุน 17,000 ล้านบาท เฟสแรกลงทุนไปแล้ว 3,500 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เดือนมีนาคม 2555
ขอบคุณข่าวจาก https://www.manager.co.th/